โควิด 19 (Covid 19) ภัยใหญ่ใกล้ตัว
Covid 19 หรือ โควิด 19 ไวรัสร้ายที่กำลังกัดกินชีวิตมนุษย์ของเราในหลาย ๆ ด้าน ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างผลกระทบให้กับคนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศมหาอำนาจ ที่บอกว่าตัวเองรับมือได้เป็นอย่างดีอย่างสหรัฐอเมริกา ยังได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่ง ประชกรโลกของเราล้มตาย และเจ็บป่วยจากอาการปอดอักเสบอย่างรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน อย่างประเทศไทยของเรา ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่น้อย ที่ต้องล้มตายจากคนที่รักไป ในช่วงครึ่งปีแรกโควิดเริ่มระบาดไปทั่วโลก
รวมถึงประเทศไทยด้วย องค์กรหลาย ๆ แห่งสั่งปิดทำการ สายการบินถูกระงับ โดยเฉพาะสายการบินทุกเที่ยวที่มาจากจีน ซึ่งถือเป็นประเทศต้นเชื้อ ถูกสั่งระงับบินทั้งหมด ถ้าพูดในทางควบคุมโรค การระงับทุกอย่างแบบนี้
ถือเป็นการป้องกันภัยที่อยู่ใกล้ตัวได้เป็นอย่างดี แต่ถ้ามองในมุมของเศรษฐกิจ การระงับเที่ยวบิน การกักตัวอยู่บ้าน หรือแม้แต่การสั่งให้ทำงานแบบ Work form home ล้วนเป็นผลให้เศรษฐกิจพังลงไปเรื่อย ๆ ทั้งนั้น
แม้ประเทศไทยของเราจะได้รับการปลดล็อค โควิด 19 รอบแรกไปแล้วช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการปลดล็อคครั้งนั้น ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจกากประชาชนเท่าที่ควร กิจการบางอย่าง ธุรกิจจบางแห่ง หรือแม้แต่ร้านค้า ยังไม่ได้กลับมาเปิดทำการแบบเต็ม 100 ประชาชนยังคงใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง
แม้รัฐบาลจะบอกว่าตัวเองมีประสิทธิภาพ ในการจัดการเมื่อเปิดล็อคดาวก็ตาม การที่ประชาชนใช้ชีวิตแบบ New Normal นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี กรสวมหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ไปทุกที่ที่เราเดินทาง ถือเป็นการเซฟตัวเองจากโรคขั้นแรกที่ถูกต้อง ในส่วนของภาคเศรษฐกิจ ทั้งรัฐและเอกชนต่างก็มีมาตรการรองรับอย่างหนาแน่น
แม่ค้า พ่อค้า คนทำมาหากิน คนหาเช้ากินค่ำ เริ่มกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง หลังจากเปิดล็อคดาวครั้งที่แล้ว ถึงแม้รายได้จะไม่มากเท่าเดิม เพราะเรายังไม่เปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบ นักท่องเที่ยวจากต่างชาติ อย่างเช่นจีนที่สร้างเม็ดเงินให้กับเราอย่างมหาศาล ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่เพียงเท่านี้ก็ช่วยชีวิตกลุ่มคนทำงาน ให้มีรายได้ใช้จ่ายในแต่ละวัน ได้ดีกว่าช่วงที่ปิดล็อคดาวแล้ว ที่น่าเป็นห่วงหน่อย ก็คือกลุ่มคนทำงานโรงงาน
หากท่านพอจะตามข่าวอยู่บ้าง ท่านคงเห็นว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งมาก ๆ ที่ประกาศปิดตัว เพราะสู้กับพิษของเศรษฐกิจ และพิษร้ายจากโควิดไม่ไหว กลุ่มคนเหล่านี้ จากที่เคยมีงานทำ มีเงินเดือน มีเงินส่งให้ที่บ้าน ต้องกลายมาเป็นคนตกงาน ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือกลุ่มคนไร้บ้าน เมื่อไม่มีงานไม่มีเงิน เขาก็ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะเช่าบ้านอยู่นั่นเอง
แม่ค้า พ่อค้า คนทำมาหากิน คนหาเช้ากินค่ำ เริ่มกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง หลังจากเปิดล็อคดาวครั้งที่แล้ว ถึงแม้รายได้จะไม่มากเท่าเดิม เพราะเรายังไม่เปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบ นักท่องเที่ยวจากต่างชาติ อย่างเช่นจีนที่สร้างเม็ดเงินให้กับเราอย่างมหาศาล ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่เพียงเท่านี้ก็ช่วยชีวิตกลุ่มคนทำงาน ให้มีรายได้ใช้จ่ายในแต่ละวัน ได้ดีกว่าช่วงที่ปิดล็อคดาวแล้ว
ที่น่าเป็นห่วงหน่อย ก็คือกลุ่มคนทำงานโรงงาน หากท่านพอจะตามข่าวอยู่บ้าง ท่านคงเห็นว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งมาก ๆ ที่ประกาศปิดตัว เพราะสู้กับพิษของเศรษฐกิจ และพิษร้ายจากโควิดไม่ไหว กลุ่มคนเหล่านี้ จากที่เคยมีงานทำ มีเงินเดือน มีเงินส่งให้ที่บ้าน ต้องกลายมาเป็นคนตกงาน ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือกลุ่มคนไร้บ้าน เมื่อไม่มีงานไม่มีเงิน เขาก็ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะเช่าบ้านอยู่นั่นเอง
แม้ตอนนี้จะไม่ได้มีการประกาศล็อคดาวอีกครั้ง แต่ทุกท่านก็ควรหาทางออกเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน ว่าหากประเทศของเราออกมาประกาศซ้ำเหมือนรอบที่แล้ว เราจะทำอย่างไรให้มีชีวิตรอด มีเงินจับจ่ายใช้สอยในครอบครัว อย่าได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องไกลตัว แต่ให้มองเป็นเรื่องรอบตัว ที่เราต้องเจอกันทุกคน และหาทางอยู่กับมันให้ได้ อ่านเนื้อหาอื่นเพิ่ม